HIIT คืออะไร: การออกกำลังกายแบบเข้มข้นสูงในเวลาอันสั้น
HIIT คืออะไร: การออกกำลังกายแบบเข้มข้นสูงในเวลาอันสั้น
การออกกำลังกายแบบ HIIT (High-Intensity Interval Training) ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะเป็นวิธีที่ช่วยเผาผลาญแคลอรี่และเพิ่มความฟิตของร่างกายได้อย่างรวดเร็วในเวลาอันจำกัด หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาวิธีออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพและประหยัดเวลา บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ HIIT ให้มากขึ้น
HIIT คืออะไร?
HIIT คือ รูปแบบการออกกำลังกายที่สลับช่วงการออกกำลังกายแบบ "เข้มข้นสูง" (High Intensity) กับช่วง "พัก" หรือ "ออกกำลังกายเบา" (Low Intensity) ซ้ำ ๆ กันเป็นชุด โดยทั่วไปแล้วการออกกำลังกายแบบ HIIT มักจะใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที ซึ่งอาจรวมถึงการวอร์มอัพและคูลดาวน์ด้วย แม้จะใช้เวลาสั้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเทียบเท่าหรือดีกว่าการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอปกติที่ใช้เวลานานกว่า
ตัวอย่างการทำ HIIT:
สมมติว่าคุณเลือกการวิ่งเป็นรูปแบบการออกกำลังกาย HIIT:
วอร์มอัพ: เดินเร็ว 5 นาที
ช่วงเข้มข้นสูง: วิ่งเร็วเต็มที่ 30-60 วินาที
ช่วงพัก: เดินเบาๆ หรือวิ่งเหยาะๆ 60-120 วินาที
ทำซ้ำ: สลับช่วงเข้มข้นสูงและช่วงพัก 5-10 รอบ
คูลดาวน์: เดินเบาๆ 5 นาที
การออกกำลังกายแบบ HIIT สามารถปรับใช้ได้กับหลากหลายกิจกรรม เช่น การปั่นจักรยาน, การกระโดดเชือก, การว่ายน้ำ, หรือแม้แต่การใช้น้ำหนักตัว (bodyweight exercises) เช่น Burpees, Squat Jumps
ประโยชน์ของการทำ HIIT:
เผาผลาญไขมันได้ดีเยี่ยม: การออกกำลังกายแบบเข้มข้นสูงช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานทั้งในระหว่างและหลังการออกกำลังกาย (EPOC - Excess Post-exercise Oxygen Consumption) ทำให้ร่างกายยังคงเผาผลาญแคลอรี่ต่อไปได้อีกหลายชั่วโมงหลังจากที่คุณหยุดออกกำลังกาย
เพิ่มประสิทธิภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด: ช่วยให้หัวใจและปอดทำงานได้ดีขึ้น เพิ่มความทนทานของร่างกายในการทำกิจกรรมต่างๆ
ประหยัดเวลา: เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย ด้วยระยะเวลาการออกกำลังกายที่สั้นแต่ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
รักษามวลกล้ามเนื้อ: เมื่อเทียบกับการคาร์ดิโอแบบต่อเนื่องเป็นเวลานาน HIIT จะช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อไว้ได้ดีกว่า ในขณะที่ยังคงเผาผลาญไขมัน
ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์มากนัก: คุณสามารถทำ HIIT ได้เกือบทุกที่ เพียงใช้น้ำหนักตัวของคุณเองก็เพียงพอแล้ว
ข้อควรระวัง:
เนื่องจาก HIIT เป็นการออกกำลังกายที่เข้มข้นสูง จึงไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ, ข้อต่อ หรือผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มทำ และควรเริ่มจากระดับเบาๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นขึ้นเมื่อร่างกายพร้อม
HIIT เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาความฟิตและลดน้ำหนัก หากทำอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ ลองนำไปปรับใช้ในตารางการออกกำลังกายของคุณดู เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในเวลาอันสั้น!

Comments
Post a Comment